Menu
สมุทรสาครเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางฝั่งทะเลอ่าวไทย ที่เที่ยวสมุทรสาคร ในเขตปริมณฑลของกรุงเทพฯ มีที่ตั้งที่ปากแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเป็นเมืองที่มีอุตสาหกรรมประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นหลัก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่ผลิตนาเกลืออีกด้วย LINE สมุทรสาครถือเป็นสวรรค์ของคนรักอาหารทะเล เพราะคุณสามารถพบกุ้ง หอย ปู และปลาที่หลากหลายชนิดได้ที่นี่
อย่าลืมลองสัมผัสความอร่อยของอาหารทะเลที่มีรสชาติอันหอมหวานเหนียวนุ่ม และกลิ่นหอมของกะทิที่เข้มข้น นอกจากอาหารที่อร่อยแล้ว สมุทรสาครยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกด้วย คุณสามารถเช็คอินชิลล์และสำรวจเมืองมหาชัยไปด้วยกันได้
สะพานแดงหรือจุดชมวิวปลาโลมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมและมีชื่อเสียงอย่างแพร่หลาย ที่เที่ยวสมุทรสาคร สะพานนี้มีความยาวประมาณ 700 เมตรและสร้างด้วยไม้สีแดงที่ยื่นลงไปในชายทะเล รอบๆ สะพานมีป่าชายเลนและแนวไม้ไผ่เรียงแถวเพื่อชะลอคลื่นชายฝั่งและช่วยฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในช่วงที่ลมหนาวพัดเข้าสู่อ่าวไทย
หากโชคดีอาจมีโอกาสพบกับฝูงโลมาสายพันธุ์ไทยอย่าง “อิรวดี” ที่มาแหวกว่ายโชว์ตัวให้เราได้ชมพบในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม นอกจากนี้ในช่วงกลางคืนยังมีปรากฎการณ์แพลงก์ตอนเรืองแสงที่สะพานแดงเป็นเวลานานหลายชั่วโมง น้ำทะเลจะส่องแสงสีฟ้าเปร่งประกายเหมือนว่ามีเวทมนต์ อย่างไรก็ตามเป็นไปตามสภาพอากาศและแร่ธาตุในน้ำทะเลของวันนั้น
ถ้าพูดถึงอาหารทะเลที่อร่อยและสดใหม่ที่สุดในกรุงเทพฯ ไม่มีที่ไหนที่เทียบเท่ากับตลาดมหาชัย ที่เที่ยวสมุทรสาคร ซึ่งเป็นแหล่งรวมสารพัดอาหารทะเลสดที่มีความนิยมอย่างมากในหมู่คนรักอาหารทะเล ที่นี่คุณจะพบกับของสดและแห้งที่มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู หรือปลา ทุกชนิดจะมีให้เลือกซื้อ และจัดวางอย่างสวยงามบนถาด ที่นี่จริงๆ แทบจะเหมือนสวรรค์สำหรับคนรักอาหารทะเล
นอกจากนี้ยังมีร้านค้าอื่นๆ ที่ขายสินค้าอาหารอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ผัก ผลไม้ ปลาแห้ง หอยดอง กะปิ ปลาเส้น ปลาแผ่น หมึกแผ่น และอื่นๆ อีกมากมาย ที่นี่ราคายังเป็นมิตรและเข้าถึงง่ายอีกด้วย คุณสามารถมาเลือกซื้อสินค้าได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะซื้อมาทานเองหรือซื้อเป็นของฝากให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนญาติ
ใกล้ ๆ กับตลาดมหาชัยที่เที่ยวสมุทรสาคร คุณจะพบกับสถานที่ตั้งที่น่ารักอย่างสะพานสายรุ้งและสะพานไม้สีสันสดใส ทั้งสองสะพานนี้ห่างจากตลาดเพียงเพียงแค่ 300 เมตรเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีสะพานชายทะเลกาหลงและสะพานปูนที่ทาขอบสีรุ้งบริเวณแท่นปูน ซึ่งเป็นสะพานสองสายที่ยาวลงไปในชายทะเล สถานที่นี้เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและมักมาถ่ายภาพในเวลาเย็น แต่ควรระมัดระวังเมื่อมาในช่วงกลางวันเนื่องจากอากาศจะร้อนมาก หากมีแผ่นกันแดดควรพกมาด้วยนะคะ
เมื่อออกจากถนนใหญ่แล้ว คุณสามารถเดินไปยังชุมชนบ้านกาหลงผ่านถนนสายเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยนาเกลือ ที่นี่คุณสามารถเห็นภาพชาวบ้านกำลังทำนาได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นจุดจอดเรือหางยาวของชาวบ้านเมื่อออกทะเลไปหากุ้ง หอย ปู และปลา ซึ่งเป็นวิถีชีวิตเล็ก ๆ ที่สามารถพบเห็นได้ที่บ้านกาหลงนี้เท่านั้น
สะพานแดงอยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งศาลฎีกา ที่เที่ยวสมุทรสาครซึ่งเคยเป็นสถานที่เกิดเหตุโชคร้ายเกี่ยวกับการตัดหัวกัปตันเรือพระราชพิธี เพื่อแสดงความซื่อสัตย์สุจริตและความชอบธรรมสูงสุดในหน้าที่ของตน จึงได้มีการสร้างอนุสรณ์สถานขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ศาลฎีกา ตามตำนานเล่าว่า เรือพระราชพิธีราชาเสือประสบอุบัติเหตุอันหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อชนเข้ากับกิ่งไม้ในเส้นทางคดเคี้ยวใกล้หมู่บ้านโคกขาม ในช่วงเวลานั้นศาลฎีกามีหน้าที่คัดเลือกกัปตันเรือพระที่นั่งตามประเพณีของราชวงศ์โบราณ
เชื่อกันว่าใครก็ตามที่เลือกกัปตันและทำให้กัปตันถูกตัดหัวจะต้องถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยความผิดร้ายแรง อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสือทรงถือว่ามันเป็นอุบัติเหตุมากกว่าเป็นการกระทำโดยเจตนา จึงทรงพระราชทานอภัยโทษ อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกายืนกรานให้ต้องรับผิดชอบและขอให้ประหารชีวิตตามกฎหมาย
หากคุณมาสักการะ ศาลพันท้ายนรสิงห์ ที่เที่ยวสมุทรสาครคุณจะไม่พลาดที่จะต้องแวะเดินชม ชิม และชอปที่ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์ ตลาดที่มีร้านค้ามากกว่า 200 ร้าน โดยเฉพาะสินค้าอร่อยที่มีอยู่มากมายให้คุณเลือกซื้อ ตลาดนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดขายสินค้าของชุมชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวให้คนมาเยี่ยมชมและสนใจสินค้า OTOP ของชุมชนสมุทรสาคร
สินค้าเด่นที่คุณไม่ควรพลาดที่จะซื้อลองทานหรือซื้อกลับไปฝากญาติและเพื่อนสนิทมิตรได้แก่ ชาอู่หลง, ข้าวหมาก, อาหารทะเลแปรรูป และปูนปั้น นอกจากนี้ยังมีศูนย์การเรียนรู้เพื่อการท่องเที่ยวภายในตลาด ซึ่งเป็นสถานที่สอนการผลิตสินค้า OTOP ของชุมชนเพื่อให้คนมาเรียนรู้และสร้างอาชีพในอนาคต นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่ารักอย่างจิตอาสาที่ทุกคนสามารถขึ้นเวทีเล็กๆ
วัดหลักศรีรัตสโมสร ตั้งอยู่ริมคลองดำเนินสะดวก มีอายุมากกว่า 65 ปี และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “หลวงพ่อโต” รูปปั้นหินทรายโบราณ สูง 99 นิ้ว นี้เป็นรูปปั้นหลักในวัดทรงไทยที่เที่ยวสมุทรสาคร ซึ่งได้รับการเคารพนับถืออย่างสูงจากทั้งชาวท้องถิ่นและผู้มาเยือนจากภูมิภาคต่างๆ รูปปั้นประดับด้วยแผ่นทองคำเปลวเป็นชั้นๆ โดยมีผู้คนจากทุกสาขาอาชีพมาสักการะและขอพรจากหลวงพ่อโต นอกจากนี้ทางวัดยังจัดพิธีชุบทองประจำปี
ซึ่งจัดขึ้นในคืนที่สามของเดือนจันทรคติที่สี่ของทุกปี นอกจากหลวงพ่อโตแล้ว วัดแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุที่สำคัญอื่นๆ เช่น ศาลาเหรียญขนาดใหญ่ ท่าทรงไทย และวัตถุมงคลต่างๆ มากมาย เช่น พระพุทธไสยาสน์ พระเกจิชื่อดัง พระราหู เจ้าแม่กวนอิม อิ่ม ชายสิงห์เอีย พระสังข์ใจ และอีกมากมาย พูดได้เลยว่าถ้ามาบ้านแพ้วแล้วไม่แวะไหว้หลวงพ่อโตจะพลาดประสบการณ์ดีๆ อย่างแน่นอน
วัดโกรกกราก หรือ วัดเก่าแก่ริมแม่น้ำท่าจีน ถือเป็นวัดที่มีอายุเกือบ 200 ปี ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวจีน สามารถสังเกตได้จากโบสถ์ไม้สักที่มีหลังคาแบบแอ่นคล้ายเก๋งจีน และด้านหน้าของวัดมีเจดีย์สององค์ นอกจากนี้ยังมีเรือสำเภาจีนองค์ละ 1 ลำ อยู่ในวัดด้วย สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือ หลวงพ่อปู่
ซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถ พระพุทธรูปปางมารวิชัยเนื้อศิลาแลงอายุกว่า 100 ปี หลวงพ่อปู่สวมแว่นตาดำ เรื่องราวเกี่ยวกับการสวมแว่นตาดำนั้นมีที่มาจากสมัยก่อนที่โรคตาบาดและการแพทย์ยังไม่เจริญ ชาวบ้านเล่ากันว่า พระพุทธรูปในวัดนี้มีความเลื่อมใสในด้านพระพุทธศาสนา จึงมีผู้คนมาบนบานศาลกล่าวขอให้ตาหายเจ็บหายแดง แล้วจะนำแผ่นทองมาปิดตาที่พระพุทธรูป ปรากฎว่าตาหายเริ่มกลับมาปกติกันทั้งหมู่บ้านอย่างสำเร็จผล
วัดนางสาวเป็นอาคารขนาดเล็กมีหลังคาโค้งรูปเรือทำด้วยอิฐปูนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาประดับด้วยกระเบื้องดินเผาแบบดั้งเดิม วัดมีประตูเดียวและไม่มีหน้าต่าง ผนังมีจิตรกรรมฝาผนังทั้งภายในและภายนอก ภายในมีแท่นบูชาหลักประดิษฐานพระแม่ธรณี เจ้าแม่ธรณี และพระพุทธรูปปางมีชัยเหนือมาร ด้านข้างมีพระพุทธรูปปางสมาธิ
ภายนอกล้อมรอบด้วยรั้วหิน วัดนี้เริ่มหายากมากขึ้นในประเทศไทย นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งน่าสนใจอื่นๆ อีกมากมายให้ชม นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจและทำบุญรวมทั้งไหว้หลวงพ่อมหาอุตม์ หลวงพ่อวัดป่าไหลยัก คุณนางพญา ศาลาศรีเพชรดี และคุณฮ่องเต้ วัดมีบรรยากาศเงียบสงบมีต้นไม้ร่มรื่นให้ร่มเงา ทำบุญเสร็จอย่าลืมไปเดินเล่นในสวนมัจฉากันนะ
วัดท่ากระบือเป็นวัดที่อายุกว่า 100 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้วัดนี้เป็นสำนักสงฆ์เพียงอย่างเดียว แต่ต่อมาได้รับการยกฐานะเป็นวัด นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจว่าเคยเป็นท่าน้ำสำหรับวัวควายลงกินน้ำ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้วัดนี้มีชื่อว่า “วัดท่ากระบือ” วัดนี้มีสิ่งที่โดดเด่นอยู่ในวิหารคือรูปหล่อหลวงพ่อรุ่งองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
ซึ่งทำจากเนื้อโลหะและมีขนาดใหญ่มาก หน้าตักมีขนาดกว้าง 9 เมตร สูง 12 เมตร รูปหล่อนี้จัดวางอยู่ในวิหาร นอกจากนี้ยังมีอาคารทรงไทยที่เป็นพระอุโบสถ ซึ่งถูกก่อสร้างด้วยอิฐและปูนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาของอาคารเป็นเครื่องไม้และมุงกระเบื้อง ภายในวิหารยังมีพระประธานพระพุทธรูปปางสมาธิ และยังมีสิ่งอื่น ๆ เช่นเจดีย์ราย พระปรางค์ 4 องค์ ศาลาการเปรียญ และศาลาไม้ทรงจตุรมุข นอกจากนี้ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ที่สำคัญมากมายที่ผู้คนสามารถไปกราบไหว้ได้
วัดท่าใหม่อันโด่งดังเป็นที่รู้จักและเป็นที่รู้จักของผู้คนจำนวนมากเนื่องจากมีสติกเกอร์ติดอยู่ที่ท้ายรถจำนวนมากที่สามารถมองเห็นได้ตามท้องถนน สาเหตุที่เห็นสติกเกอร์เหล่านี้กันทั่วไปก็เพราะว่าสติกเกอร์เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นเครื่องรางเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ปกป้องพวกเขาจากอุบัติเหตุและอันตราย
กลยุทธ์การส่งเสริมที่ประสบความสำเร็จนี้นำไปสู่การตระหนักรู้และความเคารพต่อวัดในหมู่ประชาชนทั่วไปเพิ่มมากขึ้น บางคนถึงกับค้นหาใน Google เพื่อดูว่าเหตุใดสติกเกอร์เหล่านี้จึงได้รับความนิยมและติดไว้กับรถยนต์อย่างกว้างขวาง
